รายชื่อกลุ่มและลิ้ง Facebook

ชัชช์ กายพันธ์..................ภูชิชย์ ปรเกษม

2531031441337............2531031441336



7 ตุลาคม 2553

บริษัท สบายดี อินเตอร์เน็ตชั่นเนล จำกัด Sabeydee international co. ltd

ระบบการจองโรงแรมออนไลน์
การค้นหาและการเลือกสรรโครงการ
(Project Identification and Selection)

ประวัติความเป็นมาและการก่อตั้ง
บริษัท สบายดี อินเตอร์เน็ตชั่นเนล จำกัด ( Sabeydee international co. ltd )
ก่อตั้งขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2004 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยวเลขที่ 14/00232 และ ใบอนุญาตสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวเลขที่ 02970

กว่าหลายปีที่เราได้พัฒนาระบบการจองห้องพักผ่านเว็บไซต์จนมีความพร้อม รวมถึงเพิ่มจำนวนโรงแรมและรีสอร์ทในระบบฐานข้อมูล จนขณะนี้มีมากถึง 2,500 แห่งทั่วทั้งประเทศและทีมลูกค้าสัมพันธ์มืออาชีพ ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทที่เล็งเห็นว่า สิ่งสำคัญซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จคือการมีผู้เชี่ยวชาญ รอบรู้ในแต่ละพื้นที่ คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือ iDO24 จึงภูมิใจที่จะเป็นเสมือนตัวแทน ในพื้นที่ของคุณในประเทศไทย และขอเชิญคุณเข้าร่วมแบ่งปันผลกำไร ประสบการณ์ และความรู้ต่างๆ รวมทั้งโอกาสทางธุรกิจกับเรา ซึ่งตั้งปณิธานไว้ว่า บริษัท สบายดี อินเตอร์เน็ตชั่นเนล จำกัด จะพยายามศึกษา ค้นคว้า บริการ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่าน ได้รับการบริการ ที่มีมีคุณภาพต่อๆ ไป

นโยบายบริษัท
1. นำเสนอบริการที่มีคุณภาพต่อลูกค้า
2. ให้สมาชิกทางธุรกิจได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า และยุติธรรม
3. ดูแลพนักงานทุกคนด้วยความเอาใจใส่เป็นครอบครัวเดียวกัน
4. ตอบแทนสังคมไทยด้วยความสำนึกรับผิดชอบ
5. ขยายธุรกิจระบบเครือข่ายไปต่างประเทศ
6. สร้างงานและสร้างโอกาสทางการเงินให้กับคนไทยทุกระดับ


นโยบายด้านคุณภาพ

บริษัท สบายดี อินเตอร์เน็ตชั่นเนล จำกัด ( Sabeydee international co. ltd )
เป็นหนึ่งในประเทศไทยที่นำผู้ประกอบการทัวร์ท้องถิ่นปลายทางทำให้วันพักผ่อนของคุณและในประเทศไทยได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมกับปีประสบการณ์ในการให้บริการที่กำหนดเองและจองห้องพักการเดินทางหน่วยงานดำเนินการจัดทัวร์และกระตุ้นทั่วยุโรป, สแกนดิเนเวีอเมริกาเหนือและออสเตรเลีย
เรายินดีที่จะให้คุณเข้าถึงสินค้าคงคลังที่ดีที่สุดโรงแรมอัตราภาษีและแพคเกจทัวร์ของเรา นอกจากนี้เรายังให้บริการหนึ่งหยุดเพื่อพันธมิตรของเราผ่านโปรแกรมพันธมิตร Thailand Hotel IDO24.com โปรแกรมพันธมิตรของเราง่ายและสะดวกกับการติดตามเวลาจริงสำหรับคณะกรรมการของ Thailand ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวขณะนี้ยอมรับเราเป็นผู้ผลิตชั้นนำของประเทศไทยที่มีคุณภาพบริการจองโรงแรม คุณต้องดูต่อไปไม่เกินหน้าเหล่านี้สำหรับประเทศไทยคุณต้องการเดินทางรวมถึงการเลือกที่ยอดเยี่ยมของไทยแพคเกจทัวร์
ตัวแทนนำเที่ยว บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท กว่า 1,500 แห่งทั้งโรงแรมในเมืองและรีสอร์ทตากอากาศทั่วไทย ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวมากว่า 10 ปี เราจึงเชี่ยวชาญทางด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศและจัดการเที่ยวในรูปแบบต่างๆ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวมากมาย เรายินดีให้บริการท่านด้วยความรวดเร็วในราคาที่ประหยัดและถูกกว่าคุณจองเอง ออลรีสอร์ทไทยแลนด์ดอทคอมได้รับการอนุญาตจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ให้เป็นตัวแทนการท่องเที่ยวและดำเนินการประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวได้ภายในประเทศไทย และได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายจึงกลายเป็นที่ยอมรับอีกหนึ่งของธุรกิจนำเที่ยวที่น่าเชื่อถือและมากด้วยประสบการณ์
นอกจากนี้ เรายินดีให้ข้อมูลการท่องเที่ยวต่างๆที่อัพเดทเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางของคุณ คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดของทางโรงแรมที่คุณต้องการจองได้ด้วยตัวคุณเองที่หน้าเว็บทั้งราคาและภาพถ่าย ซึ่งจะทำให้คุณแน่ใจได้มากยิ่งขึ้น ว่าได้รับคุณภาพอย่างที่คุณต้องการในราคาที่คุ้มค่า เพราะเราตั้งใจที่จะให้การพักผ่อนของคุณเป็นที่ประทับใจในราคาเป็นกันเอง
Thailand We Know คือคำจำกัดความเกี่ยวกับประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวของทีมงานเราได้ดีที่สุด ประกอบกับการได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากโรงแรมกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ ออลรีสอร์ทไทยแลนด์ดอทคอมจึงยินดีมอบส่วนลด แพกเกจพิเศษต่างๆ ที่ได้รับมานี้แก่ลูกค้าของเราโดยเฉพาะ ราคาประหยัดและการบริการที่ฉับไวถือเป็นหัวใจในการบริการของเรา

ผู้เชี่ยวชาญในระดับภูมิภาค : ออลรีสอร์ทไทยแลนด์ดอทคอม เน้นการให้บริการทัวร์ในประเทศทั้งแบบเที่ยวส่วนตัวและเที่ยวเป็นหมู่คณะ ด้วยประสบการณ์ของทีมงานเราที่ได้ให้บริการลูกค้าด้านนี้มานานทำให้เราสามารถให้คำแนะนำในเรื่องของสถานที่พัก สถานที่เที่ยว ได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการและงบประมาณของคุณ

ส่วนลดในการจองทางอินเตอร์เนท : การจองผ่านทางอินเตอร์เนทจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของคุณ เพราะเรามียอดจองโรงแรมจำนวนมากและมีโรงแรมจำนวนมากที่ได้ร่วมดำเนินการมากับเราและสร้างความสัมพันธ์ไว้อย่างดี ออลรีสอร์ทไทยแลนด์จึงมีความเป็นไปได้ดีที่สุดในการต่อรองราคาที่พักกับทางโรงแรม เรารับประกันว่าราคาในเว็บไซด์ของเราจะถูกคุณจองเอง 10-75 % คุณจะหมดห่วงได้เลยว่าราคาที่จองตรงกับเรานั้นจะเป็นราคาที่ถูกที่สุด ต้องมีการให้วางมัดจำก่อนล่วงหน้าเพื่อที่คุณจะได้มั่นใจว่าที่พักจะเรียบร้อยแน่นอนเมื่อคุณไปถึง

ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย : เราจะสอบถามข้อมูลของท่านและข้อมูลบัตรเครดิต เมื่อคุณได้ทำการจองกับทางเราเพื่อเป็นกระบวนการในการจองโรงแรมของคุณ เราใช้ระบบ SSL ที่ได้รับการรับรองจากทั่วโลกด้านความปลอดภัย ระบบนี้เป็นระบบเดียวกันกับที่บริษัททางด้านการเงินใช้ เพื่อคุณจะได้มั่นใจว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัยอย่างแน่นอน

การจัดการเดินทางตามความต้องการ : ออลรีสอร์ทไทยแลนด์ดอทคอมยินดีจัดแพกเกจการเดินทางตามความต้องการของท่าน เรายินดีจัดหาให้ท่านทั้งตั่วเครื่องบิน รถรับ-ส่ง กิจกรรมท่องเที่ยว อาหาร ฯลฯ เพียงแค่ท่านแจ้งความต้องการของท่าน ทั้งแบบส่วนตัวและหมู่คณะ

กิจกรรมมากมาย :เราสามารถจัดกิจกรรมให้กับคุณได้อย่างหลากหลาย เช่น การเที่ยวชมสถานที่ที่น่าสนใจ การดำน้ำ ไปจนถึงการล่องแพที่น่าตื่นเต้น ตามความชอบของคุณ

ข้อมูลและเอกสารออนไลน์ : คุณสามารถเข้าไปพรินท์เอกสารเข้าพัก (Hotel Voucher) ได้ทางออน์ไลน์ และเรายังยินดีให้ข้อมูลการเดินทางต่างๆ สถานที่และกิจกรรมท่องเที่ยว เสื้อผ้าที่เหมาะสม แพ็คเกจต่างๆ กำหนดการเดินทาง การเที่ยวชมสถานที่ ข้อมูลของโรงแรมต่างๆ ภายในเว็บของเราหรือจะโทรเข้ามาสอบถาม

ทางด้านการตลาดและสื่อ : ออลรีสอร์ทไทยแลนด์ดอทคอมยังได้รับการสนับสนุนและโปรโมทผ่านสื่อต่างๆ อาทิ เช่น วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และสื่ออื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจในบริการที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป และเราให้ความสำคัญกับการเป็นคนแรกที่คิดถึงเมื่อคิดจะพักผ่อน

การเป็นตัวแทนจำหน่ายร่วมกับเรา : ไม่ยุ่งยากที่จะได้ร่วมทำธุรกิจกับเรา พร้อมผลประโยชน์ที่ท่านจะได้รับมากมาย

การดำเนินงานของธุรกิจโดยรวม
• รับสมัครสมาชิกเข้าร่วมทำธุรกิจ
• บริหารองค์กรด้วยธุรกิจเครือข่าย
• บริการจองที่พัก/โรงแรม



การวางแผนโครงการ
(Project Planning)

เป้าหมาย

นำระบบสาระสนเทศเพื่อการบริหารงานมาใช้งานในบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า


วัตถุประสงค์

โครงการพัฒนาระบบมีวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานเพื่อวิเคราะห์ ออกแบบ และพัฒนาให้เป็นระบบงานที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้


ขอบเขตของระบบ

โครงการพัฒนาระบบได้มีการจัดทำขึ้นโดยทีมงานพัฒนาสารสนเทศภายในบริษัทเอง(In-House Development) พร้อมนี้ได้กำหนดขอบเขตของระบบนี้มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ระบบจะต้องแบ่งการทำงานอย่างชัดเจน แต่ข้อมูลสามารถเชื่อมโยงกันได้
2. ระบบจะต้องใช้งานง่ายและสะดวก

ปัญหาของการจองโรงแรมระบบเดิม
1 การทำงานเป็นแบบ Manual ทำให้เกิดความล่าช้า
2 การคิดค่าบริการ ต้องทำราคาและต้องหาเอกสารทำให้เกิดความล่าช้า
3 การสืบค้นข้อมูลของลูกค้าทำได้ล่าช้า
4 การออกใบจองและใบเสร็จ ไม่สอดคล้องทำให้ยอดไม่ตรงกัน
5 การส่งข่าวสารให้กับสมาชิกเกิดความล่าช้า


ความสามารถของระบบใหม่
1 สามารถออกใบรับการจอง ใบวางบิล และใบเสร็จได้
2 ราคาสามารถดูได้ทันทีผ่านหน้าเว็บไซต์
3 สามารถสืบค้นข้อมูลได้รวดเร็ว
4 คิดค่าบริการ และเอกสารวางบิลตรงกัน
5 สามารถสร้างรายงานส่งให้กับผู้บริหารได้
6 ฝั่งโรงแรมสามารถเพิ่มข้อมูลเพื่อเป็นการสนับสนุนการตัดสินใจของลูกค้าได้
7 สามารถทำงานได้ตลอดเวลา เพราะออนไลน์ 24 ชม.
8 โรงแรมสามารถคิดค่า ยกเลิกได้โดยโรงแรมเป็นผู้กำหนดเอง


แนวทางในการพัฒนา
การพัฒนาระบบของบริษัท สบายดี อินเตอร์เน็ตชั่นนล จำกัด เป็นการพัฒนาระบบในส่วนของการจำหน่ายคอมพิวเตอร์และในส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น การทำงานของพนักงานในแต่ละหน้าที่ ซึ่งบางครั้งการทำงานขั้นตอนต่าง ๆ อาจจะมีเอกสารหรือข้อมูลที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน ดังนั้นจึงได้มีการวิเคราะห์ระบบใหม่เพื่อความสะดวกและมีประสิทธิภาพในการทำงาน ก่อนที่เราจะมาวิเคราะห์ระบบเราจะต้องทำการจำลองหรือศึกษาขั้นตอนการทำงานของระบบใหม่และข้อมูลทั้งหมดว่า ระบบที่เราต้องการวิเคราะห์เหมาะสมกับระบบการทำงานเดิมของบริษัทหรือไม่ซึ่งจะแบ่งการทำงานออกเป็น 7 ขั้นตอน ดังนี้

1.การค้นหาและเลือกสรรโครงการ
2.การเริ่มต้นและการวางแผนโครงการ
3.การวิเคราะห์ระบบ
4.การออกแบบเชิงตรรกะ
5.การออกแบบเชิงกายภาพ
6.การพัฒนาและติดตั้งระบบ
7.การซ่อมบำรุงระบบ

ขั้นตอนที่ 1 การค้นหาและเลือกสรรโครงการ ( Project Identification and Selection )

เป็นขั้นตอนในการค้นหาโครงการเพื่อพัฒนาระบบใหม่ให้เหมาะสมกับระบบเดิมหรือให้เหมาะสมกับองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือต้องการระบบเพื่อนำมาใช้ในการบริหารงานในส่วนที่เกิดความบกพร่องของบริษัท เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำงานขององค์กร


ขั้นตอนที่ 2 การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ

เป็นขั้นตอนในการเริ่มต้นทำโครงการด้วยการเริ่มต้นจัดตั้งทีมงาน ซึ่งเราจะต้องกำหนดหน้าที่ให้กับทีมงานแต่ละคนอย่างชัดเจนเพื่อร่วมกันสร้างแนวทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้งานและนอกจากขั้นตอนดังกล่าวแล้วยังมีขั้นตอนอื่นอีกมากที่เกี่ยวข้องซึ่งเราสามารถสรุปกิจกรรมในขั้นตอนนี้ได้ดังนี้
1. เริ่มต้นทำโครงการ ก่อนเริ่มทำโครงการเราควรศึกษาระบบเดิมในการทำงานก่อน
2. กำหนดวัตถุประสงค์หรือทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้
3. วางแผนการทำงานของระบบใหม่

ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์

1.ศึกษาขั้นตอนการทำงานของระบบเดิม ดูว่าการทำงานของบริษัท มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างไรและเหตุใดจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบเดิม และระบบที่เปลี่ยนแปลงนี้จะเปลี่ยน
2.การรวบรวมความต้องการในระบบใหม่จากผู้ใช้ระบบ ศึกษาหรือสอบถามข้อมูลของระบบเดิมจากพนักงานหรือผู้ใช้ระบบ
3. จำลองแบบความต้องการที่รวบรวมได้ เมื่อเรารวบรวมข้อมูลมาได้แล้ว ก็สามารถออกแบบจำลองดังกล่าวได้ ด้วยวิธีการใดก็ได้ที่นักวิเคราะห์ระบบนำมาใช้ในการทำงานของระบบ


ขั้นตอนที่ 4 การออกแบบเชิงตรรกะ

เป็นขั้นตอนในการออกแบบขั้นตอนการทำงานของระบบในแต่ละส่วนงานหรือแต่ละแผนกของงาน ซึ่งในการออกแบบระบบ ระบบงานที่ได้ในแต่ละส่วนจะไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจจะมีแบบฟอร์มหรือผลลัพธ์ที่ได้เมื่อเราวิเคราะห์ขบวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เช่น ในการซื้อขายก็จะมีแบบฟอร์มให้ลูกค้ากรอก หรือแม้แต่แบบฟอร์มในการกรอกข้อมูลและการออกแบบฐานข้อมูลในโปรแกรมต่าง ๆ

ขั้นตอนที่ 5 การออกแบบเชิงกายภาพ

ในขั้นตอนนี้เป็นการทำงานของระบบในส่วนของเทคนิคของโปรแกรมหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการปรับปรุงระบบอาจจะเป็นระบบเครือข่าย ฐานข้อมูล โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อให้ผู้ใช้งานระบบสามารถเข้าใจขั้นตอนการทำงานมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ได้ในส่วนนี้จะเป็นแค่การออกแบบหลังจากนั้นจะทำการส่งให้โปรแกรมเมอร์ต่อไป

ขั้นตอนที่ 6 การพัฒนาและติดตั้งระบบ

ขั้นตอนนี้จะนำข้อมูลเฉพาะในส่วนที่ต้องการออกแบบของระบบมาทำการเขียนโปรแกรม เพื่อให้เป็นไปตามคุณลักษณะที่ต้องการของระบบงานใหม่ อาจนำโปรแกรมที่เขียนสำเร็จรูปแล้วมาใช้งานในระบบก็ได้ หลังจากเขียนโปรแกรมแล้วเราก็ควรทำการทดลองว่าโปรแกรมใช้งานได้เหมาะสมกับการทำงานของบริษัทหรือไม่ ซึ่งในขั้นตอนนี้มีกระบวนการทำงานดังนี้

1.เขียนโปรแกรม
2.ทดสอบโปรแกรม
3.ติดตั้งระบบ
4.จัดทำเอกสาร สรุปผลการทำงานของระบบ

ขั้นตอนที่ 7 การซ่อมบำรุงระบบ

อาจจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการปรับปรุงระบบ เพราะหลังจากได้ระบบใหม่มาแล้ว เราก็นำเอาระบบที่ได้มานี้ทำการแก้ไขหากระบบที่ได้มาเกิดข้อผิดพลาด

แผนการดำเนินงานของโครงการ

แผนการดำเนินงานของโครงการที่ต้องการวิเคราะห์ระบบที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ ระบบการขาย การจัดเก็บข้อมูลสินค้า และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้
- ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการ
- ประมาณการใช้ทรัพยากร
- ประมาณการใช้งบประมาณ
- ประมาณระยะเวลาดำเนินงาน



ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการ

ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการที่ได้รับมอบหมาย อาจจะเป็นบุคคลที่มีความรู้ในด้านของระบบที่ต้องการเปลี่ยนแปลงที่ทำงานอยู่ในบริษัทหรือทางบริษัทจ้างให้ทำการวิเคราะห์ระบบ ซึ่งบุคคลจะต้องดำรงตำแหน่งเกี่ยวกับการดูแลระบบ เช่น

1. นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ เป็นบุคคลที่มีความรู้ในเรื่องของการทำงานของระบบสารสนเทศที่นำมาใช้ ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ตลอดจนเก็บรวบรวมข้อมูลและติดต่อประสานงานระหว่างผู้ใช้ พนักงานหรือทีมโปรแกรม จำทำเอกสารของระบบรวมถึงการทดสอบโปรแกรมของระบบ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2. โปรแกรมเมอร์ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ 2 คน ทำหน้าที่ในการเขียนและติดตั้งโปรแกรมของระบบที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลง รวมทั้งทดสอบโปรแกรมของระบบใหม่

13 กรกฎาคม 2553

SSD เทคโนโลยีแห่งอนาคต




เทคโนโลยีสารสนเทศ เรื่อง SSD

ตอนนี้เทคโนโลยี่ของชิ้นส่วนต่างๆในคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็น CPU RAM หรือการ์ดจอ ตอนนี้ถูกพัฒนาไปมากแล้วเหลือแค่ Harddisk ที่ยังไม่ค่อยมีการพัฒนาเท่าไหร่จึงเกิดปัญหาคอขวดที่ Harddisk จึงต้องมีการพัฒนา Harddisk แบบ SSD ขึ้นมา

SSD ย่อมาจากคำว่า Solid State Drive ซึ่งมันคือ Harddisk ประเภทหนึ่งละครับ
Harddisk
แบบที่เราใช้ทั่วไปๆตอนนี้มันจะเป็นแบบจานหมุน มี 2 ขนาดหลักๆคือ 3.5 นิ้ว(แบบทั่วไป) กับขนาด 2.5 นิ้วที่นิยมใช้กันในโน๊ตบุ๊ก จุดอ่อนที่สุดของฮาร์ดดิสแบบนี้คือ ถ้าตกหรือกระแทกเมื่อไหร่มักจะพังทันที และการอ่านข้อมูลก็จะช้า แต่จุดเด่นก็คือราคาถูกเพราะมีการพัมนามานาน ตอนนี้ความจุ 1000 GB ราคาประมาณ 3,500 ส่วน 2000 GB แค่ 7,000 กว่าเอง

ส่วน SSD นั้นเป็น Harddisk แบบใหม่ที่ใช้หน่วยความจำแบบ Flash (แบบที่อยู่ใน flash drive หรือ mem ในมือถือ) ทำให้มีต้องใช้หัวอ่านตกแล้วก้พังยากขึ้น และการเข้าถึงข้อมูลก็เร็วขึ้น(ตามทฤษฏี แต่ตอนนี้ที่ทราบมาความเร็วที่ได้ ยังไม่น่าประทับใจซักเท่าไหร่)แต่ราคาก็แพงมหาศาลความจุ 160 Gb ราคาประมาณ 17,000 หลายๆคนจึงคิดว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาของ harddisk แบบ SSD ครับ

SSD (Solid State Drive) เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการประยุกต์ใช้ Flash Memory มาทำเป็น Harddisk ประโยชน์ที่ได้รับที่เห็นกันอยู่ ก็จะพบว่า ความไวในการ เข้าถึงข้อมูลจะทำได้ไวกว่า Harddisk ที่ใช้กันอยู่ในท้องตลาดซึ่งเป็น Harddisk แบบที่ใช้จานแม่เหล็ก ที่เวลาเข้าถึงข้อมูลจะต้องให้ Harddisk หมุนไปแล้วจึงหาสืบค้นข้อมูลที่ถูกเก็บใน harddisk ได้ โดยวิธีนี้ทำให้ เกิดความร้อนขึ้น ในตัวของ Harddisk เอง ยิ่งมีความไวของมอเตอร์ ที่ใช้ในการหมุนตัว จานแม่เหล็ก มากเท่าไรก็จะ ทำให้ มีความร้อนสูงมากขึ้นด้วย ดังนั้นการออกแบบจึงต้องมีการเพิ่ม พื้นที่ในการระบายความร้อนให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดเสถียรภาพในการทำงานของ Server ได้ การพัฒนาเทคโนโลยีของ Harddisk นั้นก็ พัฒนา มาหลายปี แต่ยังคงเป็นเทคโนโลยี่ที่ใช้มอเตอร์และจานแม่เหล็ก จน ถึงปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านนี้โดยการนำ meomory หรือ การนำ Solid State มาทำเป็น Harddisk ด้วยเหตุผลที่ว่า การเข้าถึงข้อมูล การเขียนข้อมูล ลงไปบนตัว Harddisk การคำนึงถึงความร้อนที่เกิดขึ้นบน ตัว Harddisk เสียงที่เกิดจากการหมุนของมอเตอร์บนตัว Harddisk

SSD ย่อมาจาก Solid State Drive เป็นหน่วยความจำประเภท Flash ชนิดหนึ่ง ที่นิยมนำมาใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก Netbook (ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า Notebook) โดยขนาดของ SSD นี้จะมีขนาดเล็กประมาณ 1.8 - 2.5 นิ้ว

ดังนั้น ปัญหาพวกนี้จะหมดไปถ้าเรานำเทคโนโลยี Solid State มาใช้ ถ้านำไปใส่ใน Notebook จะ ช่วยทำให้ ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ Notebook ทำงานได้ดีขึ้น เพราะจะกินพลังงาน ต่ำ เมื่อเทียบกับ harddisk แบบเดิม

การทำงานของมันก็ คือ Memory แบบ Flash เมื่อมีการอ่านหรือ เขียนข้อมูล ก็จะยังจดจำข้อมูลที่มีการ Update ครั้งสุดท้ายไว้ ได้ ซึ่งจะแตกต่างกับ RAM (Random Access Memory) ซึ่ง ข้อมูลจะหายไปเมื่อเราปิดเครื่องหรือ ไม่มีแหล่งจ่ายไฟเลื้ยงตัวอุปกรณ์ ข้อมูลที่บรรจุอยู่ด้านในก็จะหายไปด้วย แต่ Flash Memory ไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อเราทำการ เขียนข้อมูลลงไปที่ Flash Memory แล้ว ข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้สูญหายไปไหน ยังคงเก็บเอาไว้ เหมือนต้นฉบับทุกประการ ดังนั้นจึงมีคนนำเทคโนโลยี่นี้มาต่อยอด และพัฒนา มาเป็น Solid State Drive (SSD) ในที่สุด ไม่มีส่วนที่เคลื่อนไหวเหมือนกับ Harddisk จานแม่เหล็ก เพราะใช้ Flash เป็น ตัว จัดเก็บข้อมุล จะเห็นชัดเจน

อุปกรณ์บันทึกข้อมูลอย่าง Solid-State Drive (SSD) เป็นอุปกรณ์ Data Storage แบบใหม่ที่ออก มาให้สามารถจัดเก็บข้อมูลได้เหมือนกับฮาร์ดดิสก์ โดย SSD ทำตัวเสมือนอุ ปกรณ์ฮาร์ดไดรฟ์ โดยอาจใช้ SRAM หรือ DRAM หรือหน่วยความจำแฟลช มักเรียกว่า RAM-drive
SSD (Solid-State Drive) คือฮาร์ดดิสก์ในยุคต่อไปสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งพีซีและโน้ต บุ๊กทั้งหลาย โดย SSD ให้ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า ฮาร์ดดิสก์ธรรมดาถึง 100 เท่าเพราะไม่ได้ใช้ระบบจาน หมุนหรือเพลตเหมือนฮาร์ดดิสก์แบบปัจจุบัน ซึ่งฮาร์ดดิสก์ ณ ปัจจุบันนี้เองก็ทำให้เกิดปัญหาคอขวดในการโอนถ่ายข้อมูลแม้ว่าจะมีการพัฒนา ความเร็วออกมาให้เป็นแบบ SATA หรือ SATA II แล้วก็ตาม แต่ในการทำงานของ SSD (Solid-State Drive) นั้นก็ยังให้ความเร็วในการทำงานที่ดีกว่า

ข้อดีของ Solid State Drive (SSD)

1. ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลไวกว่าเมื่อเทียบกับ Harddisk ที่เราใช้กันในปัจจุบันหลายเท่า

2. ไม่เปลืองพลังงานไฟฟ้า กินไฟต่ำ เนื่องจากใช้เทคโนโลยี Flash จึงกินไฟต่ำ ทำให้ประหยัดพลังงานลดความร้อนลงได้มาก ไม่มีความร้อน

3. เสียงเงียบ เพราะไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของ Flash เคลื่อนไหว จึงไม่มีเสียงรบกวนให้รำคาญใจ

4. ทนการใช้งานได้ดี รองรับการกระแทกได้ เนื่องจากไม่มีหัวอ่านเหมือนฮาร์ดดิสก์

5. สามารถตกจากที่สูงได้ ในขณะที่ข้อมูลด้านในไม่เป็นอะไรเลยเมื่อเทียบกับ Harddisk แบบที่เราใช้กันในปัจจุบัน (สามารถกระแทกได้)

6. ความไวในการ Boot เครื่อง

ข้อเสียของ Solid State Drive (SSD)

1. การเขียนข้อมูลจะช้า เพราะมันคือ Flash การเขียนของมันจะต้องทำการ เพิ่มกำลังไฟฟ้าให้สูงขึ้นพอที่จะทำให้ข้อมูลใหม่เพิ่มเข้าไปได้

2. ราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับ Harddisk แบบที่เราใช้กันในปัจจุบัน

3. ความจุ (เนื้อที่) น้อย เมื่อเทียบกับ hhd ปัจจุบัน 256GB

***เรื่องความเร็ว และความน่าเชื่อถือนี่ ไม่น่าจะเป็นรองใครครับ

แต่ ที่กลัวอยู่อย่างนึงก็คือ วันดี คืนร้าย มันเดี้ยงขึ้นมา คราวนี้ละ จะกู้ข้อมูลกันยังไง

HDD
ยังดึงเอาแม่เหล็กออกจากจานได้ เทป ยังเอาข้อมูลออกจากเส้นเทปได้ แต่เจ้านี่ .... ไม่รู้จะเอาออกมายังไง (เหมือน Flash Drive)

แต่พวก นี้ ไม่น่าจะเสียง่ายๆ หรอกครับ เพราะมันไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว แถมน่าจะประหยัดไฟมากๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน SSD ยังมีความจุที่ค่อนข้างต่ำ (16, 32, 64 และ 256 GB)เมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุสูงขึ้นในระดับ TeraByte (1,024 GB) แล้ว แต่การนำไปใช้ใน Netbook ขนาดเล็ก และเน้นการใช้งานเพียงแค่อินเตอร์เน็ต หรือจัดทำเอกสารเพียงเล็กน้อย SSD ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์.. และแน่นอนการพัฒนาของ SSD ยังไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ และมีความเป็นไปได้ว่า SSD จะมาแทนฮาร์ดดิสก์ได้ในไม่ช้านี้.. อย่างนี้ คงต้องรอดูกัน..

ขยายความ
เกี่ยวกับ ความเร็ว HDD กับ ความเร็วในการเข้าถีงข้อมูล
นึกซะว่า HDD ลูกนึงเหมือนสำนักงานกองทะเบียน
นาย ก. มาขอสำเนา ทะเบียนบ้าน นายทะเบียน หาอยู่ครึ่งวันจึงเจอ คือเวลาการเข้าถีงข้อมูล Access time ช้ามาก เหมือน HDD จานแม่เหล็กทั่วไปต้องหมุนจานไปหาข้อมูล ส่วน SSD HDD จะเหมือนพี่เซิดในคอมเป็ปเดียวเจอ


อันที่ 2 Tranfer rate ความเร็วในการส่งข้อมูล เหมือน นายทะเบียนเมื่่อเจอแฟ้มแล้ว พี่แกค่อยๆเดินเป็นภาพสโลว มาหาคุณ มีแวะคุยกับป้าทำความสะอาดระหว่างทางอีก กว่าจะถีงคุณ อันนี้แหละ เหมือน Transfer rate ความเร็วในการส่งข้อมูล
ในอนาคตถ้าราคาถูกลงมาก็น่าใช้มากครับ และ HDD แบบแม่เหล็กจะหายไปเหมือน Drive 5นิ้ว ; หรือ 1.44Floppy Drive ครับ

**SSD อ่านเร็วกว่าจริง แต่ในแง่ของการเขียน
มันช้ากว่ามาก อย่าลืมในส่วนนี้
อ่านเร็วกว่าประมาณ 2 เท่า แต่เขียนช้ากว่า เกือบ 10 เท่า
เพราะฉะนั้น จะเหมาะมาก ถ้าใช้ เป็นเซิฟเวอร์

Intel SSD 40GB , 4500 Intel SSD 80GB , 8900

Intel SSD 160GB , 16900 Intel SSD 256GB 29900

เพิ่มเติม SSD
SSD นั้นมันจะแยกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน
Multi-Level Cell (MLC) NAND
และ Single-Level Cell (SLC)

ซึ่ง SSD แบบ MLC นั้นจะอนุญาติให้เขียนข้อมูลลงไปด้วย 2 bits ต่อ 1 Cell
แต่ SLC จะอนุญาาติให้เขียนได้แค่ 1 bit ต่อ 1 Cell เท่านั้น ซึ่งจะมี ข้อดีและข้อเสีย
แตกต่างกัน MLC นั้นจะมีความจุเยอะกว่า แต่ SLC นั้นจะมีความเร็วมากกว่า

SSD นั้นผลิตได้ 2 แบบ คือ
NOR Flash
หน่วยความจำจะถูกเชื่อมต่อกันแบบขนาน ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างอิสระ อ่านข้อมูลเร็วมาก แต่ มีความจุต่ำ และราคาแพงมาก
NAND Flash
เป็นแบบเข้าถึงข้อมูลทีละบล๊อก ทำให้มีความจุสูง ราคาถูก

FlashDrive
ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้จึงเป็นแบบ NAND Flash เพราะราคาถูกกว่า ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท
- Single-Level Cell (SLC) : ในแต่ละเซลเก็บข้อมูลได้ 1 บิต
ทำงานเร็วกินพลังน้อย และมีอายุการใช้งานนาน
(เขียนได้ 1 แสนครั้งโดยประมาณ) แต่ราคาสูง
- Multi-Level Cell (MLC) : 1 เซลเก็บข้อมูลได้มากกว่า
1
บิต ปัจจุบัน1 เซลเก็บได้ 2 บิต และอยู่ในระหว่างการพัฒนาให้
เก็บได้มากขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วต่ำกว่า ใช้พลังงานมากกว่า SLC
เขียนได้ ไม่เกิน 1 หมื่นครั้ง แต่มีราคาถูก)

***ผมรู้แค่ว่าเป็นเป็นแรมชนิดหนึ่งนะครับ
ที่เมื่อไม่มีไฟเลี้ยงแล้วข้อมูล ยังคงอยู่ครับ
แล้วก็การฟอร์มแมตมันในแต่ละครั้ง จะทำให้หน่วยความจำลดลงเรื่อยๆ ครับ

***การเก็บข้อมูลของ Flash Drive จริงๆแล้วไม่ต้องใช้ไฟครับ แต่ตอนข้อมูลข้อมูลเคลื่อนที่เข้าออก ระหว่าง Flash Drive กับ คอม